รวมฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี 2024 ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้
หากพูดถึงการ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ก็สามารถแก้ไขใต้ตาได้อย่างตอบโจทย์ เพราะหากพูดถึงใต้ตาก็คงเป็นจุดนึงที่สามารถดึงดูดสายตาใด้ดีเลยล่ะค่ะ ใครที่มีปัญหาเรื่องใต้ตาคล้ำ จนทำให้เสียความมั่นใจ สามารถเติมความมั่นใจด้วยการ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อแก้ไขได้อย่างตรงจุดค่ะ แต่การฉีดฟิลเลอร์เป็นจุดที่ละเอียดอ่อนมากควรเลือกแพทย์ที่เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์และควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานใช้ฟิลเลอณ์แท้ตามมาตรฐานถึงจะดีที่สุดค่ะ
ทำความรู้จักฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร ก่อนเลือกฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี
ฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การเติมเต็มใต้ตาด้วยสารไฮยาลูรอนิค หรือ HA Filler เพื่อแก้ไขปัญหาใต้ตา เช่น ใต้ตาคล้ำ เพราะเนื่องจากอายุที่เพิ่มขึ้นก็ทำให้เกิดการยุบตัวลง และเนื้อบริเวณใต้ตาน้อยลง เป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าดูไม่สดชื่น ดูโทรม หน้าดูมีอายุ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็เป็นการแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ดีเลยล่ะค่ะ ซึ่งฟิลเลอร์ใต้ตามีหลายยี่ห้อไหน เราจึงรวบรวมฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี 2024 มาฝากทุกคนกัน
ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี 2024
การเลือกฟิลเลอร์ใต้ตาต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ทั้งความบางของผิว ความรุนแรงของปัญหา และความต้องการของแต่ละคน ปัจจุบันมีฟิลเลอร์หลายรุ่นที่ถูกพัฒนามาเพื่อบริเวณใต้ตาโดยเฉพาะ มาดูกันว่าแต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นอย่างไร
Teoxane Redensity 2
ฟิลเลอร์รุ่นพิเศษที่พัฒนามาเฉพาะสำหรับบริเวณใต้ดวงตา ด้วยสูตรที่ผสมผสานกรดไฮยาลูโรนิกความเข้มข้นเหมาะสม ช่วยแก้ไขปัญหาร่องน้ำตาลึก ถุงใต้ตา และความหมองคล้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวบริเวณใต้ตาที่บอบบางให้แลดูสดใสเป็นธรรมชาติ
Teoxane RHA1
นวัตกรรมฟิลเลอร์เนื้อบางพิเศษ เน้นการเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวในระดับลึก เหมาะสำหรับการลดเลือนริ้วรอยละเอียด (Fine lines) โดยเฉพาะบริเวณรอบปาก คอ และเนินอก สามารถใช้แก้ไขรอยคล้ำใต้ตาในกรณีที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูอ่อนโยนและเป็นธรรมชาติ
Teoxane RHA2
ฟิลเลอร์ที่มีความเข้มข้นระดับกลาง ออกแบบมาสำหรับแก้ไขริ้วรอยปานกลางและเติมเต็มปริมาตรผิว สามารถใช้ลดร่องระหว่างคิ้ว เพิ่มมิติให้หน้าผาก และปรับรูปทรงริมฝีปากให้อวบอิ่มสวยงาม ด้วยคุณสมบัติการยืดหยุ่นสูง จึงให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เคลื่อนไหวได้อิสระตามธรรมชาติของใบหน้า
Juvederm Volite
Juvederm Volite เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียดที่เน้นการเก็บรายละเอียดผิว ด้วยเทคโนโลยีพิเศษที่ให้ความชุ่มชื้นสูง ทำให้ผิวใต้ตาดูเรียบเนียน สดใส ลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ ได้อย่างแนบเนียน อยู่ได้นาน 9-12 เดือน เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยเล็กน้อยและต้องการเพิ่มความชุ่มชื้น ราคาประมาณ 12,000-15,000 บาทต่อซีซี
Juvederm Volift
Juvederm Volift เป็นฟิลเลอร์ที่มีความสมดุลระหว่างความนุ่มและความยืดหยุ่น เหมาะสำหรับการเติมเต็มชั้นใต้ผิวตาที่โหล ด้วยเทคโนโลยี Vycross ทำให้เนื้อฟิลเลอร์เข้ากับเนื้อเยื่อได้ดี ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่ดูแข็งหรือพองเกินไป อยู่ได้นานถึง 12-18 เดือน เหมาะกับคนที่มีปัญหาใต้ตาโหลชัดเจน ราคาประมาณ 18,000-22,000 บาทต่อซีซี
Restylane Vital
Restylane Vital มีเนื้อเจลบางเบาและเกลี่ยง่าย ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมาก เหมาะสำหรับการแก้ไขร่องลึกใต้ตาและเพิ่มความชุ่มชื้น ด้วยเทคโนโลยี NASHA ทำให้การกระจายตัวของเจลสม่ำเสมอ ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียน อยู่ได้นาน 8-12 เดือน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งร่วมกับร่องใต้ตา ราคาประมาณ 12,000-15,000 บาทต่อซีซี
Restylane Vital Light
Restylane Vital Light คือฟิลเลอร์เนื้อละเอียดที่สุดในตระกูล Restylane เน้นการเก็บรายละเอียดผิวและริ้วรอยเล็กๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีผิวบางและต้องการแก้ไขริ้วรอยใต้ตาแบบนุ่มนวล อยู่ได้ 6-8 เดือน ข้อดีคือฟื้นตัวเร็ว บวมน้อย และมีความปลอดภัยสูงสำหรับผิวบาง ราคาประมาณ 10,000-13,000 บาทต่อซีซี
Restylane Defyne
Restylane Defyne โดดเด่นด้วยความยืดหยุ่นสูงและความคงทน เหมาะสำหรับแก้ไขปัญหาตาลึกที่เกิดจากการทรุดตัวของกระดูกเบ้าตา ด้วยเทคโนโลยี XpresHAn Technology ทำให้เนื้อฟิลเลอร์เคลื่อนไหวไปกับใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน อยู่ได้นานถึง 18 เดือน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาลึกมากและต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน ราคาประมาณ 20,000-25,000 บาทต่อซีซี
ใครที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาดำคล้ำตาลึก ตาโบ๋
- ช่วยให้หน้าดูอ่อนเยาว์ ดูสดชื่น ไม่โทรม
- ช่วยเติมเต็มริ้วรอยใต้ตาให้ดูเรียบเนียนขึ้น
- หากไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ สามารถฉีดเพื่อสลายได้
- การฉีดฟิลเลอร์ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังฉีด
ข้อควรระวังของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- อาจมีรอยช้ำบริเวณที่ฉีดได้ และจะหายเองได้ภายใน 1-2 สัปดาห์
- ผู้ที่มีอาการเเพ้สาร Hyaluronic ไฮยาลูรอนิก แอซิด ฉีดฟิลเลอร์ไม่ได้เด็ดขาด
- คุณแม่ตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร ควรงดการฉีดฟิลเลอร์
- ผู้ที่มีอาการเเพ้ยาชา ควรงดการฉีดฟิลเลอร์ เพราะในฟิลเลอร์ส่วใหญ่จะมียาชาผสมอยู่
- ผู้ที่มีประวัติเป็นเเผลคียลอยด์ง่าย
- ผู้ที่มีปัญหาเลือดออกเเล้วหยุดยาก ฟกช้ำง่าย อาจจะเกี่ยวข้องกับตัวยาที่คนไข้ กินอยู่เป็นประจำ เช่น แอสไพริน ยาแก้ปวดกล้ามเนื้อ วิตามินอี เเละ สารสกัดจากใบแปะก๊วย เป็นต้น ตัวยาเหล่านี้มีผลต่อการเเข็งตัวของเลือด
- ใต้ตาเป็นจุดที่ละเอียดอ่อนมาก ควรฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตา คือการเติมเต็มใต้ตาด้วยสารไฮยาลูรอนิค หรือ HA Filler เพื่อแก้ไขปัญหาใต้ตา เช่นใต้ตาคล้ำ เพราะเนื่องจากอายุที่เพิ่มขึ้นก็ทำให้เกิดการยุบตัวลง และเนื้อบริเวณใต้ตาน้อยลง เป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าดูไม่สดชื่น ดูโทรม หน้าดูมีอายุ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็เป็นการแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ดีเลยล่ะค่ะ


ราคาโปรโมชั่นโปรแกรมฟิลเลอร์

วิธีดูว่าเป็นของแท้หรือปลอม
การแยกแยะฟิลเลอร์แท้จากฟิลเลอร์ปลอมในปัจจุบันอาจจะยากขึ้น เนื่องจากฟิลเลอร์ปลอมถูกเลียนแบบมาคล้ายกับของแท้มาก จึงจำเป็นต้องมีวิธีการสังเกตที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นของแท้และปลอดภัย โดยสามารถสังเกตได้จากหลายจุดสำคัญ ดังนี้
- ราคา ฟิลเลอร์แท้มักจะมีราคาสูงกว่าฟิลเลอร์ปลอมอย่างเห็นได้ชัด หากเจอราคาที่ถูกมากเกินไป ควรตั้งข้อสงสัยไว้ก่อน เพราะราคาของฟิลเลอร์แท้มักจะอยู่ในช่วง 15,000-25,000 บาทต่อการฉีดในแต่ละบริเวณ และราคาก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์ด้วย
- เลข Lot ฟิลเลอร์แท้จะต้องมีหมายเลข Lot. ที่ตรงกันทั้งในกล่อง หลอดฟิลเลอร์ และซองบรรจุภัณฑ์ โดยสามารถเช็กเลข Lot. กับบริษัทผู้จัดจำหน่ายได้ หากไม่ตรงกันหรือไม่สามารถเช็กได้ อาจเป็นฟิลเลอร์ปลอม นอกจากนี้บางยี่ห้ออย่าง Restylane หรือ Neuramis ยังสามารถสแกน QR Code เพื่อตรวจสอบความแท้ได้
- บรรจุภัณฑ์ ฟิลเลอร์แท้จะต้องบรรจุในกล่องที่ปิดมิดชิด ไม่มีการรั่วไหลและไม่มีการเปิดมาก่อน บรรจุภัณฑ์ต้องสมบูรณ์พร้อมด้วยเข็ม หลอดฟิลเลอร์ที่มีหัวจุกปิดมิดชิด และคู่มือการใช้งานครบถ้วน
- เลข อย. ฟิลเลอร์แท้ต้องได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และต้องมีฉลากภาษาไทย พร้อมเลขทะเบียน อย. ที่สามารถตรวจสอบได้ หากไม่มีฉลากภาษาไทย หรือไม่มีเลขทะเบียน อย. อาจเสี่ยงเป็นฟิลเลอร์ปลอมได้
ฉีดของปลอมส่งผมเสียยังไง
การฉีดฟิลเลอร์ปลอมเป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างมาก เนื่องจากฟิลเลอร์ประเภทนี้ไม่สามารถสลายไปตามธรรมชาติได้ และจะตกค้างในร่างกาย ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง ฟิลเลอร์ปลอมจะมีการไหลเป็นก้อนแข็ง บวม หรือห้อยย้อยออกจากตำแหน่งเดิมตามที่ฉีดไว้ ส่งผลให้เกิดความผิดปกติในรูปทรงของใบหน้า เช่น การฉีดฟิลเลอร์ที่ร่องแก้มอาจทำให้แก้มห้อยลงมาอย่างไม่สวยงามเมื่อเวลาผ่านไป นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ปลอมยังสามารถทำให้ผิวหนังบริเวณที่ฉีดเกิดการบิดเบี้ยวผิดรูป อีกทั้งอาจทำให้เกิดอาการบวม แดง อักเสบ หรือแม้กระทั่งติดเชื้อได้ ซึ่งหากมีอาการแพ้ฟิลเลอร์ปลอมอาจทำให้เนื้อตายและเกิดพังผืดในระยะยาวได้อีกด้วย
ข้อควรปฏิบัติก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา


คำถามที่พบบ่อย
การฉีดฟิลเลอร์เป็นหนึ่งในวิธีเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน แต่หลายคนอาจยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับขั้นตอน ผลลัพธ์ และการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ ในหัวข้อนี้ เราจะตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อช่วยให้เรามีความเข้าใจและมั่นใจในการตัดสินใจมากยิ่งขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล
โดยปกติแล้วหลังฉีดจะยังมีอาการบวมฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ 100% จะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจนขึ้นประมาณ 2 สัปดาห์ โดยใต้ตาจะอิ่มฟูและริ้วรอยใต้ตาลดลง
ฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่ CC ถึงเห็นผล
ในการใช้ฟิลเลอร์ใต้ตาของคนไข้ในแต่ละบุคคลจะใช้ปริมาณที่ไม่เท่ากัน ซึ่งขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล โดยแพทย์จะพิจารณาจากปัญหาของคนไข้ โดยทั่วไปแล้วจะใช้อยู่ประมาณ 1-3 CC. ค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวมกี่วัน
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาการบวมหลังฉีดถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ค่ะ จะมีอาการบวมประมาณ 1-3 วัน สาเหตุเพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่มีคุณสมบัติของไฮยารูลอนิกแอซิดที่กักเก็บน้ำไว้ อาการบวมจะมีอาการแค่ในช่วงแรกที่ฉีดเท่านั้น คนไข้ควรปฏิบัติตามที่แพทย์แนะนำเพื่อให้อาการบวมค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ
ฟิลเลอร์ตำแหน่งอื่นๆ ที่น่าสนใจ
การเลือกฟิลเลอร์ใต้ตาควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวและความรุนแรงของปัญหา นอกจากนี้ราคาอาจแตกต่างกันในแต่ละคลินิก ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งและประสบการณ์ของแพทย์ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แท้ที่นำเข้าอย่างถูกต้องและฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น สำหรับผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาของแท้จากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถเข้ามาปรึกษากับ Wichanya Clinic ได้เลย