ฉีดฟิลเลอร์คาง
การ ฉีดฟิลเลอร์คาง เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับคางเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นคางตัด คางบุ๋ม หรือคางเบี้ยว ทำให้ใบหน้าดูไม่มีมิติ อยากแก้ไขคางแต่ไม่อยากผ่าตัด หรือไม่มีเวลาพักฟื้นหลังผ่าตัดเลย การฉีดสารเติมเต็มก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้กลายเป็นเรื่องง่ายอีกด้วยนะคะ ใครที่กำลังลังเล ลองอ่านบทความนี้แล้วจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ
ฟิลเลอร์คาง คืออะไร
การฉีดฟิลเลอร์คาง คือการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid หรือ HA เข้าที่บริเวณคาง เพื่อปรับให้รูปหน้าได้สัดส่วน หน้าดูวีเชฟมากขึ้นหรือแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น คางบุ๋ม คางตัด คางเบี้ยว ถือว่าเป็นหัตถการที่เปลี่ยนรูปคางที่นิยม เพราะสามารถเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ ไม่ต้องผ่าตัด หรือพักฟื้น และเนื้อฟิลเลอร์สลายไปเองตามธรรมชาติค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์คางเหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีปัญหาคางสั้น คางตัด ทำให้หน้าดูสั้น ดูกลม ปรับให้ดูหน้าเรียวสวย
- ผู้ที่มีปัญหาคางบุ๋ม ปรับให้คางได้สัดส่วน
- ผู้ที่มีปัญหาคางเบี้ยว ปรับให้คางดูสมมาตร ได้สัดส่วนมากขึ้น
ใครที่ไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์คาง
- ผู้ที่มีปัญหาคางสั้นมากๆ หรือต้องการเสริมให้คางยาวขึ้นเกิน 1 ซม.
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ถาวร เพราะฟิลเลอร์จะมีอายุวันสลายค่ะ
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คาง
- ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวสวย รับกับหน้าโดยใช้เวลาไม่นาน
- สามารถปรับรูปทรงของคางได้ สวยเป็นธรรมชาติ
- ฟิลเลอร์สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
- หากไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ สามารถฉีดเพื่อสลายได้
- การฉีดฟิลเลอร์ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังฉีด
ข้อควรระวัง
- ผู้ที่มีอาการเเพ้สาร Hyaluronic ไฮยาลูรอนิก แอซิด ฉีดฟิลเลอร์ไม่ได้เด็ดขาด
- คุณแม่ตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร ควรงดการฉีดฟิลเลอร์
- ผู้ที่มีอาการเเพ้ยาชา ควรงดการฉีดฟิลเลอร์ เพราะในฟิลเลอร์ส่วนใหญ่จะมียาชาผสมอยู่
- ผู้ที่มีประวัติเป็นเเผลคียลอยด์ง่าย
- กรณีคนไข้เป็นเริม หรือ งูสวัด ฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มไม่ได้เด็ดขาด เพราะอาจทำให้อาการป่วยกำเริบมากขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาเลือดออกเเล้วหยุดยาก ฟกช้ำง่าย อาจจะเกี่ยวข้องกับตัวยาที่คนไข้ กินอยู่เป็นประจำ เช่น แอสไพริน ยาแก้ปวดกล้ามเนื้อ วิตามินอี เเละ สารสกัดจากใบแปะก๊วย เป็นต้น ตัวยาเหล่านี้มีผลต่อการเเข็งตัวของเลือด
รีวิวการฉีดฟิลเลอร์คาง
โปรโมชั่น
ข้อควรปฏิบัติก่อน-หลังฉีด
ข้อปฏิบัติก่อนการฉีด
1.ปรึกษาแพทย์ก่อนทำหัตถการเพื่อให้แพทย์ประเมินใบหน้า
2.งดยาบางชนิด วิตามิน หรืออาหารเสริมบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน คอลลาเจน เป็นต้น อย่างน้อย 1 สัปดาห์
3.งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับหัตถการ อย่างน้อย 1 วัน
4.งดทำกิจกรรมที่สัมผัสความร้อนหรือทำให้เส้นเลือดสูบฉีด เช่น การออกกำลัง,การอบซาวน่า,การเลเซอร์ อย่างน้อย 1 สัปดาห์
5. หากมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับหัตถการ
ข้อปฏิบัติหลังการฉีด
1. ควรดื่มน้ำตามมากๆประมาณ 8-10 แก้วต่อวัน
2. งดการสัมผัส แคะ แกะ นวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
3. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
อย่างน้อย 1 สัปดาห์
4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน หรือกิจกรรมที่
ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การออกกำลัง,การอบซาวน่า
อย่างน้อย 1 สัปดาห์
5. งดทานอาหารหมักดอง อย่างน้อย 1 สัปดาห์
6. งดการทาลิปสติก อย่างน้อย 1 วัน หลังจากนั้น
ให้ทาลิปที่สามารถเช็ดออกได้ง่าย อย่างน้อย 1
สัปดาห์
7.งดการดื่มน้ำด้วยหลอดประมาณ 1 วัน
คำถามที่พบบ่อย
ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?
โดยปกติแล้วผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้และการดูแลตัวเองของคนไข้ค่ะ
ฟิลเลอร์ใช้ปริมาณกี่ CC.?
แพทย์จะประเมินตามปัญหาและรูปหน้าของคนไข้ค่ะ บางเคสที่มีปัญหามากต้องใช้ 2-3 CC. แต่ในบางเคสที่ปัญหาน้อยใช้เพียง 1 CC. ก็เพียงพอแล้วค่ะ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีด
คนไข้บางเคสอาจมีอาการบวมแดง ช้ำ ซึ่งถือว่าเป็นอาการปกติค่ะ จะมีอาการประมาณ 3-4 วัน หาก 1 สัปดาห์ยังมีอาการอยู่ สามารถเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คได้ค่ะ