ยกกระชับผิวให้เต่งตึง อิ่มฟูด้วยไหมมิ้นท์ (MINT LIFT)
ในปัจจุบัน เทคโนโลยีเรื่องความสวยความงาม ได้พัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวหน้า พร้อมปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ยกกระชับผิวให้มีความเต่งตึง ได้รูปมากยิ่งขึ้น ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สดใส และหนึ่งในนวัตกรรมด้านความงามที่กำลังได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายคือ ไหมมิ้น หรือ mint lift เทคโนโลยียึดเซลล์ผิวหน้าจากประเทศเกาหลี ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นไหมที่มีความแข็งแรงสูง สามารถยึดเกาะเซลล์ผิวได้แน่นมากขึ้น ไหมมิ้นท์ (mint lift) คืออะไร มีจุดเด่นอย่างไร สามารถตอบโจทย์ปัญหาผิวในเรื่องใดบ้าง เราจะมาไขข้อข้องใจทุกแง่มุมของไหมมิ้นด้วยกัน
ร้อยไหม MINT คืออะไร?
ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักไหมมิ้นท์กันก่อน ไหมมิ้น คือ ไหมที่ทำมาจากวัสดุที่เรียกว่า PDO (Polydioxanone) ซึ่งเป็นชนิดของไหมละลายที่มีเงี่ยงอยู่โดยรอบ 360 องศา มีลักษณะคล้ายก้านของดอกกุหลาบที่ล้อมรอบไปด้วยหนาม โดยมีการหลอมด้วยบล็อกขึ้นรูปเป็นเส้นไหม เงี่ยงของไหมมิ้นที่ยืนออกมามีความแข็งแรงมากกว่าไหมแบบเดิม เกาะผิวได้แน่น เป็นที่รู้จักในวงการแพทย์มายาวนานกว่า 30 ปี มักถูกนำมาใช้ในการเย็บแผลผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจ เนื่องจากไม่มีสารอันตรายตกค้าง ไหมมิ้นได้เองภายใน 6-8 เดือน โดยที่ร่างกายไม่มีปฏิกิริยาต่อต้าน ไม่มีอาการแพ้ และไม่มีรอยแผลเป็น ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยาและมีการขึ้นทะเบียนให้เป็นไหมสำหรับการยกกระชับในประเทศไทยเมื่อปี ค.ศ.2019 ส่วนการทำ mint lift เป็นการใช้ไหมมิ้นร้อยลงไปใต้ผิวเพื่อลดความหย่อนคล้อย ทำให้ผิวเต่งตึง โดยคำว่า MINT มาจาก Minimal Invasive Non surgical Thread เป็นการร้อยไหมแทนการผ่าตัดดึงหน้า ซึ่งจะเปิดจุดเล็กๆที่บริเวณหนังศีรษะเพื่อที่แพทย์จะสามารถร้อยไหมเข้าไปเพื่อยกกระชับผิวหน้านั่นเอง
ลักษณะของไหมมิ้นท์ลิฟท์ (MINT Lift)
ไหมมิ้น คือ ไหมที่ถูกวิจัยและพัฒนาสำหรับการทำ mint lift เพื่อยึดเซลล์ผิวหน้า มีลักษณะโดดเด่นและมีประสิทธิภาพในการช่วยยกกระชับผิวให้เต่งตึง อิ่มฟู ดูมีชีวิตชีวา โดยใช้เทคโนโลยีแบบกดอัด หรือ เพรส โมลดิ้ง (Press Molding) ที่มีโครงสร้างหมุดแบบ 3D รอบเส้นไหมแบบ 360 องศา เรียกได้ว่าเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ HansBiomed(เลขที่สิทธิบัตร CPCTP11-0007) ที่ไม่สามารถเลียนแบบได้เลย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เส้นไหมมิ้น โดยเฉพาะบริเวณที่เรียกว่า “เงี่ยงไหม” ของไหม mint lift มีความแข็งแรง ทั้งยังยึดติดผิว สามารถดึงเนื้อเยื่อได้รอบทิศทาง มีแรงดึงยกกระชับได้มากกว่าไหมทั่วไปถึง 4 เท่า
จุดเด่นของไหมมิ้นท์ (Mint) ที่แตกต่างจากไหมตัวอื่น
การร้อยไหมมิ้น หรือ mint lift มีข้อแตกต่างจากการร้อยไหมแบบทั่วไป ดังต่อไปนี้
- Mint lift หรือการร้อยไหมมิ้น มีแรงดึงมากกว่าไหมที่ใช้ดึงหน้าทั่วไป 4 เท่า
ความพิเศษของไหมมิ้น คือ มีการใช้วิธีขึ้นรูปแบบกดอัด หรือ Press Molding ทำให้มีรอยเฉือนของเงี่ยนไหมจากแกนกลาง ทั้งไหมมิ้น ยังมีเงี่ยงไหมที่หล่อขึ้นมาตามโครงสร้างหมุดแบบ 3D ที่สามารถหมุนได้รอบทิศทาง ทำให้ได้ไหมมิ้นที่มีความแข็งแรง ทนทาน เกาะกับผิวได้แบบ 360 องศา ส่งผลให้การทำ mint lift มีแรงดึงมากกว่าไหมที่ใช้ดึงหน้าทั่วๆไปมากถึง 4 เท่า - การร้อยไหมมิ้น (mint lift) เป็นที่ยอมรับและได้รับการรับรอง
- การร้อยไหมมิ้น (mint lift) เป็นการใช้ไหมจากเกาหลี ที่ผลิตและจัดจำหน่ายโดยบริษัท HANs Biomed โดยผลิตจาก Polydioxanone(PDO) มีความปลอดภัยสูง เป็นไหมมิ้น ที่ถูกนำไปใช้ในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก สำหรับประเทศไทย ไหมมิ้น ได้รับการรับรองจาก อย.ให้สามารถใช้ในหัตถการได้
- การร้อยไหมมิ้น (mint lift) มีให้เลือกหลายรุ่น ตอบโจทย์ทุกปัญหาผิว เนื่องจากปัญหาผิวของคนเรามีความแตกต่างกัน ดังนั้น ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของไหมมิ้น คือ มีการพัฒนาตัวไหมออกมาหลายรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีลักษณะเฉพาะตัว ที่สามารถใช้ในแต่ละจุดที่มีปัญหาแตกต่างกัน
- การร้อยไหมมิ้น (mint lift) อยู่ได้นาน อีกหนึ่งความโดดเด่นที่ทำให้ไหมมิ้น มีความแตกต่างจากไหมดึงหน้าทั่วๆไปคือ อยู่ได้นาน โดยที่ไม่ทำอันตรายต่อผิว โดยหลังจากที่ทำ mint lift แล้ว ไหมมิ้น จะสบายไปได้เองภายในระยะ 6 – 8 เดือน แต่จะคงผลลัพธ์ต่อเนื่องไปอีก 12-18 เดือน เนื่องจากไหมมิ้นใช้วัสดุ Polydioxanone(PDO) ที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิวขึ้นมาประคับประคองผิวเอาไว้
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้จากการร้อยไหมมิ้น (mint lift) อาจมีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาผิวและการดูแลสุขภาพผิวของแต่ละคนด้วย
ไหมมิ้นท์ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
การร้อยไหมมิ้น คือ หัตถการทางการแพทย์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาและปรับโครงสร้างผิวหน้าและส่วนต่างๆ ดังนี้
- ช่วยลดความหย่อนคล้อยของผิว
การร้อยไหมมิ้น ช่วยยกกระชับผิวบริเวณผิวหน้า ที่หย่อนคล้อยให้ได้รูปสวยงามและสมส่วน มองเห็นกรอบหน้าได้ชัดเจนขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น mint lift ยังช่วยยกกระชับกระเปาะแก้ม เหนียง ร่องน้ำหมากและร่องแก้มได้ด้วย - ช่วยปรับรูปหน้า
สำหรับท่านที่ต้องการรูปหน้าเรียวแบบ V Shape การทำ mint lift หรือ ร้อยไหมมิ้น สามารถยกหน้าและแก้มให้ตึงได้รูปสวย แบบที่ไม่ต้องผ่าตัด - ช่วยประคองผิว
เมื่อร้อยไหมมิ้น เข้าไปในชั้นผิว ตัวไหมจะทำหน้าที่คล้ายกับเส้นเอ็นบนใบหน้า ที่ช่วยประคับประคองผิว ยกกระชับผิวให้ดูเต่งตึงขึ้น - ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว
คอลลาเจนและอีลาสติน เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผิวมีความแข็งแรง ยืดหยุ่น ดังนั้น การร้อยไหมมิ้น (mint lift) จึงสามารถกระตุ้นการสร้างสาระสำคัญทั้งสองนี้ได้ ทั้งยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดมายังชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวมีความแน่น กระชับ ทั้งยังสามารถลดเลือนริ้วรอยเล็กๆบนใบผิวหน้า ทำให้ดูอ่อนเยาว์ มากขึ้น - ช่วยแก้ไขปัญหาหนังตาตก หางคิ้วตก และหางตาตก
- ช่วยยกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณลำตัว เช่น ท้องแขนและบั้นท้าย เป็นต้น
ร้อยไหมมิ้นท์ เหมาะกับใครบ้าง ?
การยกระชับผิวด้วยวิธี mint lift หรือการร้อยไหมมิ้น คือ เหมาะสำหรับบุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้า ดังต่อไปนี้
- ผู้ที่มีอายุเพิ่มมากขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้น เป็นเรื่องปกติที่เซลล์ผิวจะเกิดความเสื่อม เนื่องจากปริมาณของอีลาสตินลดน้อยลง ทำให้ผิวหนังเริ่มหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ร่องน้ำหมากลึก ดังนั้น การร้อยไหมมิ้น จึงเหมาะกับผู้ที่มีอายุ 30-60 ปีขึ้นไป โดยเนื้อเยื่อของผู้เข้ารับบริการ mint lift นั้นจะต้องไม่มีการยุบตัวหรือไม่หย่อนคล้อยมากจนเกินไป แต่ในกรณีที่ผิวมีความหย่อนยานมากๆ อาจร้อยไหมร่วมกับการทำหัตถการอื่นๆด้วย เช่น โบท็อก ฟิลเลอร์ หรือHifu เป็นต้น - ผู้ที่หน้าไม่ได้สัดส่วน
mint lift สามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ที่ใบหน้าไม่สมส่วน ไม่มีมิติ รวมถึงผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวและมีกรอบหน้าที่คมชัดมากขึ้น - ผู้ที่กลัวการผ่าตัด
สำหรับท่านที่ไม่ต้องการรผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม การร้อยไหมมิ้น คือ อีกหนึ่งทางเลือกที่ปลอดภัย ใช้เวลาไม่นาน แถมยังไม่ต้องพักฟื้นนานอีกด้วย - ผู้ที่มีปัญหาคิ้วตก หางตาตก มุมปากตก
การร้อยไหมมิ้น หรือ mint lift สามารถช่วยยกกระชับผิวในบริเวณต่างๆได้เป็นอย่างดี
ร้อยไหมมิ้นท์ รีวิว
ส่วนรีวิว ของการร้อยไหมมิ้น คือการที่ลูกค้าสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำหัตถการ ผิวจะมีความยกกรระชับขึ้น และจะยิ่งผลที่ชัดเจนมากขึ้นใน1-2 เดือนหลังจากนั้น แต่การทำ mint lift หรือการร้อยไหมมิ้น จะเห็นผลชัดมากที่สุดหลังจากทำได้ประมาณ 6 เดือน แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาผิว และการดูแลตนเองของแต่ละคนด้วย สามารถร้อยไหมมิ้น (mint lift ) เฉพาะจุดได้ มีลักษณะของไหมมิ้นให้เลือกหลายหลาย เพื่อแก้ปัญหาที่แตกต่างได้แบบไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวที่หย่อนคล้อยขึ้นมาใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อควรระวังในการร้อยไหมมิ้นท์ลิฟท์ (MINT Lift)
มีข้อควรรระวังในการร้อยไหม mint lift หรือ ไหมมิ้น คือ เนื่องจากไหมมิ้น มีลักษณะเป็นเงี่ยง มีโครงสร้างแบบหมุดรอบเส้นไหม ดังนั้น สิ่งที่จะต้องคำนึงคือจะต้องทำหัตถการกับแพทย์ผู้มีประสบการณ์และมีความชำนาญเท่านั้น มีความรู้เรื่องโครงสร้างกายวิภาคของหน้า และจะต้องอาศัยเทคนิคในการร้อยไหมมิ้น ที่ถูกต้อง เพราะถ้าหากร้อย mint lift ในชั้นผิวที่ตื้นเกินไป ก็จะทำให้ผิวเป็นคลื่น เป็นรอยนูนเคลื่อนไปตามแนวไหมที่ร้อย หรือเป็นก้อนเป็นลำ ผิวไม่เรียบ มีอาการบวมช้ำ ทำให้หน้าไม่เท่ากัน เกิดเป็นรอยบุ๋มขึ้นมาได้
ข้อดีของการร้อยไหมมิ้นท์
- ตัวไหมมิ้นมีเงี่ยงที่มีขนาดใหญ่ มีความแข็งแรง มีลักษณะคล้ายตะขอแบบ 360 องศา ที่สามารถเกี่ยวเนื้อเยื่อในชั้นผิวได้รอบทิศทาง นอกจากนั้น การผลิตไหมมิ้น เป็นการขึ้นรูปโครงสร้างของไหมใหม่ทั้งเส้น ด้วยวิธี Molding แทนการใช้เทคนิคเดิมคือ Cutting เพราะไหมมิ้น ถูกออกแบบมาให้มี 3 มิติ ทนต่อการขยับตัวของกล้ามเนื้อได้มากกว่าไหมทั่วไป แน่น กระชับ เส้นไหมมิ้น คือ ไม่ขาดง่าย ไม่เปราะบาง ทนต่อแรงดึงมากกว่าไหมชนิดอื่นๆ ดังนั้น จึงเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนทันทีหลังทำหัตถการ การทำ mint lift จึงให้ประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการทำศัลยกรรมดึงหน้าเลยทีเดียว
- มีความปลอดภัย เพราะการทำ mint lift ใช้ไหมมิ้น ที่ละลายได้ 100% จากวัสดุ PDO ซึ่งไม่มีส่วนผสมของสารที่เป็นโลหะ ไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตรายทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว ทั้งยังได้รับการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยาทั้งจากไทยและต่างประเทศ
- อีกหนึ่งความพิเศษของไหมมิ้น คือ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินให้กับเนื้อเยื่อผิว ที่เมื่อเส้นไหมมิ้น ละลายแล้ว จะยังมีคอลลาเจนและอีลาสตินที่ถูกสร้างขึ้นในแนวผิวที่ถูกต้องและในชั้นผิวที่เหมาะสม เป็นเหมือนเส้นเอ็นธรรมชาติที่จะช่วยประคับประคองเนื้อเยื่อผิวเอาไว้ให้มีความแข็งแรงและยกกระชับมากขึ้น
- ไหมมิ้นมีขนาดของเส้นไหมที่เล็ก ดังนั้น หลังจากทำ mint lift เสร็จ จึงมองไม่เห็นรอยไหม
- เนื่องจากการร้อยไหมมิ้น หรือการทำ mint lift ไม่ใช่การทำศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า จึงไม่ต้องพักฟื้น เนื่องจากมีการบวมช้ำที่น้อย สามารถทำงานหรือทำกิจกรรมอื่นๆได้ตามปกติ
- mint lift สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นผิวหย่อนคล้อย มุมปากตก มีเหนียงหย่อนยาน แก้มตอบ กรอบหน้าไม่ชัด หรือมีร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก พร้อมทั้งช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ เช่นในบริเวณมุมปาก หางตา หน้าผาก ทั้งยังสามารถทำ mint lift หรือร้อยไหมมิ้น ร่วมกับหัตถการอื่นๆได้
ชนิดของไหมมิ้นท์ (Mint Lift)
โดยปกติ ในต่างประเทศได้แบ่งชนิดของไหมมิ้น เพื่อทำ mint lift ออกเป็น 11 รุ่น ซึ่งได้แบ่งประเภทของไหมมิ้นออกเป็น 5 กลุ่มย่อย คือ
- กลุ่ม Anchoring & Double chin ประกอบด้วยไหมมิ้น คือ รุ่น Easy และ 43cm
- กลุ่ม Lifting ประกอบด้วยไหมมิ้น คือ รุ่น Fine, Petit, Mini และ Simple
- กลุ่ม Fixation ประกอบด้วยไหมมิ้น คือ รุ่น Fix และ Fix-mini
- กลุ่ม Nose ประกอบด้วยไหมมิ้น คือ รุ่น Up และ Tip
- กลุ่ม Tightening ประกอบด้วยไหมมิ้น คือ รุ่น Mono
สำหรับประเทศไทย ไหมมิ้น ที่ถูกนำมาใช้ในการทำ mint lift และได้รับการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีทั้งหมด 6 รุ่น เพื่อตอบโจทย์ต่อปัญหาผิวในลักษณะต่างๆ ดังต่อไปนี้
Mint easy
ไหมมิ้น ที่ใช้ในการทำ mint lift ในรุ่น Mint easy มีลักษณะเด่นดังต่อไปนี้
เส้นไหมมิ้นมีความยาวประมาณ 42.4-43 cm เส้นไหมมีขนาด USP 1-0
- เส้นไหมมิ้น คือ เป็นไหมเข็มที่มีปลายแหลมทั้งสองด้าน ช่วยประสานเข็มร้อยไว้ที่ปลาย
- เส้นไหม ร้อยเข็มเข้าไปเพื่อทำ mint lift ได้ง่าย ใช้กับเข็มเบอร์19G ช่วยหลบหลีกเส้นเลือดได้ดี สามารถลดอาการบวมช้ำได้
- ลักษณะของเงี่ยงไหมมิ้น เป็นแบบ Bi-directional cogs 3D รอบทิศทาง เกี่ยวติดกับเนื้อเยื่อได้ดี ไม่ขาดง่าย
- ไหมมิ้น รุ่นนี้เหมาะกับผู้ที่มีอายุมาก มีความหย่อนคล้อยของผิวบริเวณเหนียงและแก้มในระดับปานกลางถึงมาก
Mint fine
รุ่นของไหมมิ้นที่ใช้ทำ mint lift อย่าง Mint fine มีลักษณะที่โดดเด่น คือ
- ตัวของเส้นไหมมิ้น คือ มีความยาว 15 cm โดยมีขนาดเส้นไหมมิ้น USP 2-0 ใช้กับขนาดของเข็มเบอร์ 18G
- เป็นไหมเข็มที่มีปลายทู่แบบมน ที่มีรูปร่างเดียวกับแคนูล่าแบบ W-type cannula เป็นไหมมิ้นที่ช่วยป้องกันการร้อยไหม ไม่ให้โดนเส้นเลือดและเส้นประสาท
- ลักษณะของเงี่ยงไหมมิ้น เป็นแบบ Bi-directional cogs 3D รอบทิศทางแบบ 360 องศา ยึดติดกับเนื้อเยื่อได้ดี ไม่เปราะหรือขาดง่าย
- เส้นไหมมิ้น สำหรับการทำ mint lift มีลักษณะบาง ร้อยง่าย เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบาง
- เหมาะสำหรับการทำ mint lift ในกรณีที่มีความหย่อนคล้อยของผิวในระดับปานกลาง แก้ไขในจุดที่มีปัญหาไม่มากนัก ใช้ในการเก็บรายละเอียด เช่น การยกกระชับผิวหน้า เหนียง ยกคิ้ว และหางตา เป็นต้น
Mint Fix
Mint Fix เป็นไหมมิ้น ที่ใช้ทำ mint lift โดยมีลักษณะ ดังต่อไปนี้
- เส้นไหมมิ้น มีความยาวประมาณ 15 cm โดยมีขนาดเส้นไหม USP 2-0 เส้นไหมหนา แข็งแรง ไม่ขาดง่าย
- เป็นไหมมิ้น สำหรับเข็มปลายทู่แบบมน W-type ใช้กับเข็มเบอร์ 18G
- ลักษณะของไหมมิ้น คือ มีเงี่ยงไหมเป็นเกลียวโดยรอบ แบบ Multi-directional cogs 3D ในลักษณะ 360 องศา สามารถใช้ร้อยไหม mint lift เสริมกับไหมชนิด Bi-directional เพื่อให้มีความแข็งแรงขึ้นได้
- เป็นไหมมิ้นที่เหมาะกับผู้ที่เหมาะกับผู้ที่มีผิวบาง ผิวมีความหย่อนคล้อยในระดับน้อยจนถึงปานกลาง สามารถใช้ทำ mint lift เพื่อยกกระชับใบหน้าและเหนียง เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่คงทนและยาวนาน
Mint Fix-mini
Mint Fix-mini เป็นไหมมิ้น ที่ใช้ทำ mint lift มีจุดเด่น ดังต่อไปนี้
- เส้นไหมมิ้น มีความยาวประมาณ 6 cm โดยมีขนาดเส้นไหม USP 2-0
- เป็นไหมมิ้นที่ใช้กับเข็มปลายทู่แบบมน W-type ที่มีขนาดของเข็มเบอร์ 19G
- ในส่วนลักษณะของเงี่ยงไหมมิ้น คือ เป็นแบบ Multi-directional cogs 3D ยึดติดเนื้อเยื่อได้รอบทิศทางแบบ 360 องศา สามารถใช้ร่วมกับไหมมิ้น ชนิด Bi-directional เพื่อเสริมความแข็งแรงในการทำ mint lift ได้
- ใช้ทำ mint lift ในผู้ที่ผิวบาง มีความหย่อนคล้อยของผิวในระดับน้อยถึงปานกลาง ช่วยยกระชับผิวบริเวณหางตา คิ้ว ร่องและกระเปาะแก้ม และมักใช้ไหมมิ้นรุ่นนี้มาร้อยที่บริเวณจมูกด้วย
Mint mono
Mint mono เป็นไหมมิ้น ที่ถูกนำมาใช้ในการทำ mint lift มีลักษณะสำคัญ ดังต่อไปนี้
- เป็นไหมมิ้น ที่มีเส้นเล็กเรียบ ไม่มีเงี่ยง โดยมีความยาว ตั้งแต่ 30-90 mm เส้นของไหมมิ้นมี 3 ขนาดคือ USP 5-0, 6-0 และ 7-0 ใช้กับเข็มแหลม เบอร์ 25G, 27G, 29G และ 30G
- โดยส่วนใหญ่ ใช้ในการร้อยไหมมิ้น mint lift ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว การร้อยไหมมิ้น คือ ช่วยทำให้ผิวมีความแน่นและกระชับมากขึ้น
Mint Up
Mint Up เป็นไหมมิ้น สำหรับการร้อยไหมแบบ mint lift ซึ่งมีลักษณะสำคัญ ดังนี้
- เป็นไหมมิ้น ที่มีความยาวประมาณ 9.5 cm โดยมีขนาดของเส้นไหม USP 2-0
- ในการทำ mint lift จะใช้ไหมมิ้นรุ่นนี้กับเข็มปลายทู่แบบตัด L-type ใช้กับเข็มเบอร์ 19G
- ลักษณะของไหมมิ้น คือ มีเงี่ยงไหมแบบ Multi-directional ผสมกับ Uni-directional cogs 3D ยึดกับผิวได้รอบทิศทางแบบ 360 องศา
- เป็นไหมมิ้น เส้นเล็ก บาง รูปร่างละเอียด ร้อยง่าย ลดความเสี่ยงของการที่ไหมมิ้น คลายตัวหลังแทรกเข้าสู่ชั้นผิวได้ดี
- ใช้ในการร้อยไหมมิ้นแบบ mint lift ในผิวที่บาง และมักจะถูกนำไปร้อยเพื่อเพิ่มสันจมูกให้มีรูปทรงที่สวยขึ้น โดยไม่ต้องศัลยกรรมผ่าตัดได้
การเตรียมตัวก่อนทำร้อยไหมมิ้นต์ลิฟท์ (MINT Lift)
ก่อนทำหัตถการร้อยไหมมิ้น (mint lift) จะต้องมีการเตรียมตัวอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นในการทำหัตถการ ดังนี้
- แจ้งแพทย์ผู้ทำหัตถการร้อยไหมมิ้น (mint lift) ให้ละเอียดและชัดเจน หากมีโรคประจำตัว เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือดอย่างรุนแรง กำลังตั้งครรภ์ หรือประวัติการแพ้ยาชาและยาประเภทอื่นๆ
- ก่อนทำ mint lift หรือร้อยไหมมิ้น ให้งดใช้ยา อาหารเสริม รวมถึงสมุนไพรต่างๆ เช่น ยาแอสไพริน, Coumadin, Ibuprofen, Advil, Motrin, Multivitamins, Fish oil, Omega3, Co-enzyme Q10 ,วิตามินอี หรือ อีฟนิ่งพริมโรส ที่ส่งผลให้เลือดแข็งตัวอย่างน้อย 7 วันก่อนทำหัตถการ
- ให้งดการสูบบุหรี่ก่อนร้อยไหมมิ้นอย่างน้อย 1 – 2 เดือน ก่อนทำ mint lift เนื่องจากสารนิโคตินในบุหรี่สามารถทำให้เกิดภาวะเนื้อเยื่อขาดเลือดมาเลี้ยง ซึ่งอาจส่งผลให้เนื้อเยื่อตายได้
- ให้งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มมึนเมาก่อนร้อยไหมมิ้น (mint lift) อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- ให้งดการแต่งหน้าหรือใช้เครื่องสำอางสำหรับผิวหน้า ในวันที่มีการร้อยไหมมิ้น
- ควรสระผมและแปรงฟันให้เรียบร้อย ก่อนร้อยไหมมิ้น (mint lift)
ขั้นตอนการร้อยไหมมิ้นต์ลิฟท์ (MINT Lift) เป็นอย่างไร?
การร้อยไหมมิ้น (mint lift) มีขั้นตอน ดังต่อไปนี้
- แพทย์จะประเมินรูปหน้า พร้อมตรวจลักษณะของผิว พร้อมวางแผนการรักษาอย่างละเอียดก่อนร้อยไหมมิ้น
- เริ่มต้นการร้อยไหมมิ้น (mint lift) โดยการแปะยาชาในบริเวณที่ต้องการทำหัตถการ และรอประมาณ30-45 นาที จนกว่ายาชาจะออกฤทธิ์
- จากนั้น แพทย์จะใช้เข็มนำเส้นไหมมิ้นสอดลงไปในชั้นผิวหนัง เนื้อเยื่อของผิวจะถูกเกี่ยวขึ้นโดยเงี่ยงไหมมิ้นตามแนวของเส้นไหม เป็นการช่วยดึงผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมากระชับได้มากขึ้น โดยจะใช้เวลาในการทำประมาณ 30 นาที
- ในการร้อยไหมมิ้น หรือ mint lift เพื่อปรับรูปหน้ามักจะมีรอยเข็มเล็กๆเกิดขึ้นในบริเวณที่ทำหัตถการ แพทย์จะปิดพลาสเตอร์เล็กๆเอาไว้ ซึ่งแผลเล็กๆดังกล่าวจะหายไปได้เอง
การดูแลตัวเองหลังทำร้อยไหมมิ้นต์ลิฟท์ (MINT Lift)
หลังจากร้อยไหมมิ้น(mint lift) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและเกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด ผู้รับบริการจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด พร้อมดูแลตัวเองหลังการทำหัตถการ ดังนี้
- หลังการร้อยไหมมิ้น สามารถล้างหน้าได้หลังทำ mint lift ไปแล้ว 1 วัน แต่ให้ทำอย่างเบามือ
- หากมีอาการบวมช้ำในช่วง 3 วันแรก ให้หมั่นประคบเย็นหลังทำหัตถการไหมมิ้น(mint lift)
- ให้งดการลูบ จับ หรือคลึงใบหน้า โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการร้อยไหมมิ้น(mint lift) อย่างน้อย 3 วัน หลังจากวันที่ทำหัตถการ เพราะอาจทำให้แนวไหมเกิดการเคลื่อนที่
- ให้งดการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลังร้อยไหมมิ้น(mint lift) เป็นเวลา 7 วัน
- ให้เลี่ยงการสัมผัสความร้อนหรืออยู่ในอุณหภูมิที่สูงหลัง ร้อยไหมมิ้น(mint lift) ไม่ว่าจะเป็นการทำเลเซอร์หน้า การอบซาวน่า การแช่น้ำร้อนในอ่าง หรือการออกกำลังกายอย่างหักโหม เป็นเวลา 7 วัน
- งดการนวดหน้าหรือการใช้เครื่องมือที่มีกระแสไฟฟ้ากระตุ้นผิวหน้าหลังร้อยไหมมิ้น(mint lift) ประมาณ 1-2 เดือน
- ให้เลี่ยงการขยับกล้ามเนื้อบนใบหน้ามากเกินไป เช่น การอ้าปากกว้าง การเคี้ยวหมากฝรั่ง เป็นเวลา 14 วัน
- หลังจากร้อยไหมมิ้น หรือ mint lift สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติหลังจากทำหัตถการไปแล้ว 24 ชั่วโมง
- ให้เลี่ยงการนอนตะแคงหรือนอนคว่ำหน้าลง หลังจากร้อยไหมมิ้น
- ให้รับประทายยาประเภทฆ่าเชื้อ ยาแก้ปงดหรือยาแก้อักเสบตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดหลังร้อยไหมมิ้น
ร้อยไหมมิ้นท์ ราคาเท่าไหร่
ราคาของการร้อยไหมมิ้น(mint lift) จะแตกต่างกันตามรุ่นของไหม โดยส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่ราคา 15,000 บาท ซึ่งหากท่านสนใจ สามารถขอรับคำแนะนำจากวิชัญญาคลินิก เพื่อประเมินสภาพผิวหน้าก่อนได้ในทุกช่องทางการติดต่อของเรา
ร้อยไหมมิ้นท์ ที่ไหนดี
ในการเลือกสถานเสริมความงามหรือคลินิกร้อยไหมมิ้น(mint lift) เพื่อปรับรูปหน้าหรือเพื่อแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยของผิว มีข้อควรพิจารณา ดังต่อไปนี้
- การร้อยไหมมิ้นจำเป็นต้องทำหัตถการกับแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เท่านั้น เพื่อแพทย์จะได้ประเมินปัญหาผิว เลือกใช้ไหมมิ้นในรุ่นที่เหมาะสมกับสภาพปัญหา เพื่อให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและปลอดภัยสำหรับผู้รับบริการ
- การร้อยไหมมิ้น(mint lift) ต้องอาศัยเทคนิคที่เฉพาะเจาะจงและมีความถูกต้องแม่นยำ เพื่อลดโอกาสบวมช้ำ และผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ พร้อมทั้งให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- ใช้ไหมมิ้นแท้ ได้มาตรฐาน มีการรับรองอย่างถูกต้อง สามารถมั่นใจในผลลัพธ์และความปลอดภัยได้สูงสุด
ทำไมต้องร้อยไหมมิ้นต์ลิฟท์ (MINT Lift) ที่ วิชัญญาคลินิก
ที่วิชัญญาคลินิก เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมากด้วยประสบการณ์ในการร้อยไหมมิ้น(mint lift) พร้อมด้วยเทคนิคที่เฉพาะตัว โดยใช้ไหมมิ้นแท้ เกรดพรีเมี่ยม คุณภาพดี ก่อนทำหัตถการ เรามีบริการประเมินผิวหน้าก่อน เพื่อจะช่วยแก้ไขปัญหาผิวของท่านได้อย่างตรงจุด ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ พร้อมบริการดูแลอย่างใกล้ชิดทั้งก่อนและหลังทำ มีรีวิวจริงจากผู้รับบริการมากมาย ตอบโจทย์ทุกความสวยของคุรได้อย่างแน่นอน
สรุป
การร้อยไหมมิ้น หรือ mint lift เป็นอีกศาสตร์ความงามที่กำลังฮิตในหมู่ชายหนุ่ม หญิงสาวที่ยกกระชับผิวในระดับเร่งด่วน ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย คิ้วตก หางตาหรือมุมปากตกเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมกรอบหน้าให้ชัดได้รูปมากขึ้น เสริมบุคลิกให้โดดเด่นและดูดีขึ้นอีก ทั้งยังมีความปลอดภัยสูงจากเทคโนโลยีที่มีความเฉพาะเจาะจง มีประสิทธิภาพช่วยยกกระชับผิวได้มากกว่าไหมทั่วไปถึง 4 เท่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ควรเลือกทำหัตถการ mint lift กับแพทย์ผู้มีประสบการณ์เฉพาะทาง เลือกไหมมิ้นที่ได้มาตรฐาน และหมั่นดูแลผิวของท่านให้ดูดีอยู่เสมอร่วมด้วย ก็จะช่วยให้ไหมมิ้นอยู่คู่กับผิวสวยของท่านได้ยาวนานขึ้น
คำถามที่พบบ่อย
ร้อยไหมมิ้นท์ กับการผ่าตัดดึงหน้า
การร้อยไหมมิ้น หรือ mint lift เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีความทันสมัย ตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่มีเวลาไม่มาก และกลัวศัลยกรรมผ่าตัด ซึ่งมีความเสี่ยงมากกว่าและต้องมีเวลาในการพักฟื้นที่ยาวนาน แต่การร้อยไหมมิ้น คือ เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ที่สำคัญเป็นวิธีที่ช่วยดึงเนื้อเยื่อผิวตั้งแต่ชั้น SMAS ขึ้นมา ทำให้หน้าสามารถยกกระชับได้เทียบเท่ากับการผ่าตัดดึงหน้าเลยทีเดียว
ไหมมิ้นท์ ใช้กี่เส้น ?
ก่อนทำหัตถการร้อยไหมมิ้น(mint lift) แพทย์จะต้องประเมินสภาพผิวหน้าของเราก่อน เพื่อกำหนดรุ่นของไหมมิ้นและจำนวนของไหมที่ต้องใช้ ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้ไหมมิ้นอยู่ที่ข้างละ3-10 เส้น แล้วแต่สภาพปัญหาของผิว
ร้อยไหมมิ้นท์กี่วันเห็นผล ?
แท้จริงแล้ว หลังร้อยไหมมิ้น(mint lift) มักจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้ทันที ในระยะ2-3 วัน อาจมีอาการบวมเข็มเล็กน้อย แต่จะหายเองได้ จะเห็นผลลัพธ์มากขึ้นใน 7-14 วัน และจะเห็นผลชัดเจนในระยะเวลา 1 เดือน
ร้อยไหมมิ้นท์อยู่ได้นานไหม ?
โดยส่วนใหญ่ ไหมมิ้น จะเริ่มสลายในระยะเวลาประมาณ 6-8 เดือน แต่ถึงแม้ไหมมิ้นจะละลายแล้ว ก็ยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผิวมีความแน่นกระชับได้ยาวนานมากขึ้นถึง 12-18 เดือน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพผิวของแต่ละบุคคล และการดูแลตนเองหลังการร้อยไหมมิ้น(mint lift)
ร้อยไหมมิ้นท์ปลอดภัยไหม
การร้อยไหมมิ้น หรือ mint lift ได้รับการยอมรับจากคลิกนิกและสถานเสริมความงามทั่ว
โลก เนื่องจากได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาทั้งจากไทยและต่างประเทศว่ามีประสิทธิภาพในการยกกระชับใบหน้า(Approve Indication Lifting) ทั้งยังใช้วัสดุ PDO ที่มีประสิทธิภาพในการยึดเกาะเซลล์ผิวได้อย่างดีเยี่ยม มีการจดสิทธิบัตร รับประกันผลลัพธ์ว่าปลอดภัยและดีเยี่ยม
ร้อยไหมมิ้นท์ร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม
การร้อยไหมมิ้น(mint lift) สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นๆเพื่อยกกระชับผิวได้ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดฟิลเลอร์ โบท็อก หรือการฉีดไขมันทั่วหน้า หรือจะใช้การร้อยไหมมิ้นร่วมกับเครื่องมือยกกระชับ พวก HIFU Ulthera, Thermage ก็ได้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์