หากพูดถึงหัตถการยอดฮิตตลอดกาลก็คงจะไม่พ้น “ฉีดฟิลเลอร์ปาก” ถือว่าเป็นหัตถการที่ทำแล้วหน้าเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัด ใครเห็นก็สะดุดตา ไม่ว่าจะเทรนด์ปากสายเกาหลี สายฝอ หรือสายธรรมชาติ หลังฉีดแล้วก็ทำให้ใบหน้าดูมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก ถือว่าสิ่งที่ทำแล้วคุ้มค่าเงินจริงๆเลยค่ะ สำหรับสาวๆคนไหนกำลังตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ปาก วันนี้เรามาทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ปากผ่านบทความนี้ได้เลยค่ะ

ฟิลเลอร์ปาก คือ การฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid หรือ HA เข้าที่บริเวณริมฝีปาก ที่ช่วยเติมเต็มเนื้อบริเวณปาก โดยฟิลเลอร์จะมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ เมื่อฉีดไปแล้วจะช่วยให้ปากชุ่มชื้น เรียบเนียน เติมเต็มร่องปากให้ดูตื้นขึ้นทำให้หมดปัญหาในการทาลิปสติกแล้วตกร่องได้อย่างดีเลยค่ะ

การฉีดฟิลเลอร์ปากยังสามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้หลากหลายเลยล่ะค่ะ เช่น แก้ไขปัญหาปากไม่เท่ากัน ปากไม่เป็นกระจับ เนื้อปากบางเกินไป เพื่อปรับให้รูปปากได้สัดส่วนตามต้องการและช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเอง หรือรวมไปถึงผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากแห้งอาจจะฉีดฟิลเลอร์ปากเพียงแค่ให้ริมฝีปากชุ่มชื้นแต่ไม่ต้องการให้ทรงปากเปลี่ยน เมื่อทาลิปสติกแล้วไม่ตกร่อง เป็นต้น

ฟิลเลอร์ปากช่วยเพิ่มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปาก ทำให้ปากดูเต็มและมีมิติมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีปากบางหรือปากที่ขาดความสมส่วน การฉีดฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มความหย่อนคล้อยและริ้วรอยบริเวณร่องปาก ทำให้ปากดูเรียบเนียนและสดใสขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถปรับรูปปากให้สมดุล เช่น ปรับรูปทรงปากให้ดูเซ็กซี่และดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ฟิลเลอร์ปากยังช่วยเสริมความมั่นใจให้กับผู้ที่มีปัญหาปากไม่สมส่วนหรือมีร่องลึกที่ทำให้ปากดูแก่หรือไม่สดใส โดยการฉีดฟิลเลอร์จะช่วยให้ริมฝีปากดูเนียนขึ้นและเติมเต็มพื้นที่ที่ขาดหายไป ทำให้ผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์รู้สึกสวยและมั่นใจมากขึ้น

1. ผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ไม่เรียบเนียน เมื่อทาลิปสติกแล้วตกร่อง
2. ผู้ที่มีปัญหาเนื้อปากไม่เท่ากัน หรือรูปปากไม่ได้ตามสัดส่วน
3. ผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากบาง ไม่ได้สัดส่วนตามที่ต้องการ
4. ผู้ที่มีปัญหามุมปากตก มุมปากคว่ำ ทำให้หน้าดูดุหรือหน้าบึ้งตลอดเวลา

1. ช่วยแก้ไขปัญหาริมฝีกปากแห้ง ให้ดูชุ่มชื้น อวบอิ่ม
2. ช่วยแก้ไขริมฝีปากที่ไม่เท่ากันหรือบาง ปรับให้รูปปากได้สัดส่วนตามที่ต้องการ
3. ช่วยแก้ไขริมฝีปากที่ตกให้ดูยกขึ้น เพื่อปรับให้ใบหน้าดูไม่ดุ
4. หากไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ สามารถฉีดเพื่อสลายได้
5. การฉีดฟิลเลอร์ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังฉีด

1. ผู้ที่มีอาการเเพ้สาร Hyaluronic ไฮยาลูรอนิก แอซิด ฉีดฟิลเลอร์ไม่ได้เด็ดขาด
2. คุณแม่ตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร ควรงดการฉีดฟิลเลอร์
3. ผู้ที่มีอาการเเพ้ยาชา ควรงดการฉีดฟิลเลอร์ เพราะในฟิลเลอร์ส่วนใหญ่จะมียาชาผสมอยู่
4. ผู้ที่มีประวัติเป็นเเผลคียลอยด์ง่าย
5. ผู้ที่มีปัญหาเลือดออกเเล้วหยุดยาก ฟกช้ำง่าย อาจจะเกี่ยวข้องกับตัวยาที่คนไข้ กินอยู่เป็นประจำ เช่น แอสไพริน ยาแก้ปวดกล้ามเนื้อ วิตามินอี เเละ สารสกัดจากใบแปะก๊วย เป็นต้น ตัวยาเหล่านี้มีผลต่อการเเข็งตัวของเลือดฃ

การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ปากที่ดีควรพิจารณาจากคุณภาพ ความปลอดภัย และประสบการณ์ของแพทย์ในการฉีด ฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมและมีความปลอดภัยสูง ได้แก่

• Restylane ฟิลเลอร์ Restylane เป็นที่นิยมในการฉีดปาก เนื่องจากเนื้อเจลมีความนุ่มและยืดหยุ่นสูง ช่วยให้ปากดูเต็มและเรียบเนียน โดยไม่เกิดการจับตัวเป็นก้อน ซึ่งเหมาะกับการเติมเต็มร่องปากหรือปรับรูปปากให้ดูมีมิติมากขึ้น
• Juvederm ฟิลเลอร์ Juvederm มีหลายรุ่นที่เหมาะกับการฉีดปาก เช่น Juvederm Volbella ซึ่งมีเนื้อเจลที่บางและนุ่ม ช่วยให้การเติมปากดูเป็นธรรมชาติและยืดหยุ่นได้ดี
• Teoxane ฟิลเลอร์ Teosyal มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความนุ่มและกระจายตัวได้ดี เหมาะกับการปรับรูปทรงและเติมเต็มปากที่ดูบางหรือไม่สมส่วน

การฉีดฟิลเลอร์เป็นหนึ่งในวิธีเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน แต่หลายคนอาจยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับขั้นตอน ผลลัพธ์ และการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ ในหัวข้อนี้ เราจะตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อช่วยให้เรามีความเข้าใจและมั่นใจในการตัดสินใจมากยิ่งขึ้น

หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก 1 วัน สามารถทาลิปสติกที่ลบออกได้ง่ายได้จามปกติค่ะ แต่ลิปสติกที่ลบออกยากแนะนำให้ทาหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพราะหากคนไข้ทาลิปสติกที่ลบออกได้ยาก เวลาเช็ดออกจะทำให้ปากเสียรูปได้ค่ะ

ฟิลเลอร์ปากจะใช้ปริมาณที่ไม่มากค่ะเพราะเป็นจุดที่ไม่ใหญ่ เพียงแค่ 1 CC. ก็เพียงพอแล้วสำหรับการปรับรูปทรงปาก แต่หากคนไข้ต้องการปากที่มีวอลลุ่มมากๆ อาจจะใช้จำนวน 2 CC.ค่ะ

การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นบริเวณที่ละเอียดอ่อน ซึ่งในการทำหัตถการจะมีความรู้สึกเจ็บเล็กน้อยค่ะ
แต่โดยปกติแล้วก่อนทำหัตถการจะมีการแปะยาชาก่อนฉีดอยู่แล้ว และฟิลเลอร์บางยี่ห้อจะมียาชาผสมอยู่แล้วก็จะช่วยลดความเจ็บไปได้อีกค่ะ

การฉีดฟิลเลอร์ปากหากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้ฟิลเลอร์ของแท้ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) จะมีความปลอดภัยสูง อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์อาจมีความเสี่ยงอยู่บ้าง เช่น การติดเชื้อจากการใช้เข็มที่ไม่สะอาด การเกิดอาการบวมแดง หรือการแพ้สารที่ใช้ในฟิลเลอร์ ซึ่งเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ในบางกรณี หากไม่ดูแลหรือเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน

การฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเกิดเป็นก้อนมักเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากเกินไปในจุดเดียว ซึ่งทำให้ฟิลเลอร์สะสมและไม่กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้เกิดการจับตัวเป็นก้อน หรืออาจเกิดจากการเลือกฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพต่ำ ซึ่งทำให้เนื้อฟิลเลอร์ไม่สามารถกระจายตัวได้ดี ทำให้เกิดก้อนแข็งในบริเวณที่ฉีด นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์ในทิศทางหรือจุดที่ไม่ถูกต้องก็สามารถทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่ไม่ต้องการและเกิดก้อนได้ การนวดหรือการดูแลหลังฉีดที่ไม่ถูกวิธีก็อาจส่งผลให้ฟิลเลอร์ไม่กระจายตัวหรือเกิดการจับตัวเป็นก้อน ดังนั้น การเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและการเลือกฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันปัญหานี้

การฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ ปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีด วิธีการดูแลหลังการฉีด และสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล ฟิลเลอร์บางยี่ห้อ เช่น Teoxane Juvederm หรือ Restylane มักจะอยู่ได้นานกว่า เนื่องจากมีคุณสมบัติในการยึดเกาะกับเนื้อเยื่อได้ดี และเป็นฟิลเลอร์ที่มีความทนทานต่อการสลายตัว

การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการเพิ่มความอวบอิ่มและปรับรูปทรงของริมฝีปากให้เต็มและดูธรรมชาติ ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มร่องรอยและปรับให้ปากมีมิติยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีริมฝีปากบางหรือต้องการปรับให้ปากดูเรียวและกระชับขึ้น นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ปากยังช่วยแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยหรือร่องรอยรอบปาก ทำให้ใบหน้าดูเด็กและสดใสขึ้น หากสนใจฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มของแท้จากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถเข้ามาปรึกษากับ Wichanya Clinic ได้เลย