อากาศร้อนจัดในประเทศไทยเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อผิวพรรณโดยตรง ทำให้เกิดปัญหาผิวเสียจากแดดหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นผิวคล้ำเสียจากแดด ผิวหมองคล้ำ หรือแม้กระทั่งหน้าไหม้แดด ซึ่งส่งผลต่อความมั่นใจและสุขภาพผิวในระยะยาว มาทำความเข้าใจอาการผิวเสียจากแดดและวิธีการดูแลกัน
อาการผิวเสียจากแดด
ผิวเสียจากแดดมีหลายระดับความรุนแรง ตั้งแต่อาการเล็กน้อยไปจนถึงขั้นรุนแรง ซึ่งขึ้นอยู่กับความเข้มของรังสี UV ที่ได้รับ ระยะเวลาที่สัมผัสแดด และความไวต่อแสงของผิวแต่ละคน เราจำเป็นต้องทราบอาการต่าง ๆ เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวที่เสียไป
ระดับ 1 ผิวไหม้แดดเล็กน้อย
อาการผิวไหม้แดดระดับเล็กน้อยมักเกิดขึ้นหลังจากสัมผัสแสงแดดเป็นเวลา 1-2 ชั่วโมง ผิวจะมีสีแดงเล็กน้อย มีความร้อนสะสมที่ผิว และอาจรู้สึกแสบผิวเล็กน้อย อาการเหล่านี้มักหายไปเองภายใน 48 ชั่วโมง หากได้รับการดูแลที่เหมาะสม ถึงแม้จะดูเหมือนไม่รุนแรง แต่หากปล่อยให้เกิดซ้ำ ๆ จะนำไปสู่ปัญหาผิวคล้ำเสียจากแดดอย่างถาวร และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอยก่อนวัยและโรคผิวหนังในอนาคต
ระดับ 2 ผิวไหม้แดดปานกลาง
เมื่อผิวสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน 2-3 ชั่วโมงขึ้นไป อาจทำให้เกิดอาการไหม้แดดระดับปานกลาง ผิวจะแดงมากขึ้นชัดเจน มีความร้อนสูง มีอาการแสบร้อนและปวดตึงที่ผิว บางรายอาจเกิดอาการบวมเล็กน้อย และอาจพบตุ่มน้ำขนาดเล็ก ผิวที่ไหม้แดดในระดับนี้ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู 3-7 วัน และมักทิ้งร่องรอยความคล้ำไว้หลังจากอาการแดงหายไป ส่งผลให้ผิวคล้ำเสียจากแดดอย่างเห็นได้ชัด
ระดับ 3 ผิวไหม้แดดรุนแรง
การไหม้แดดระดับรุนแรงเป็นภาวะที่ต้องได้รับการดูแลทางการแพทย์ ผิวจะแดงจัด มีอาการปวดแสบปวดร้อนรุนแรง เกิดตุ่มน้ำพองขนาดใหญ่ บางรายมีอาการคลื่นไส้ ปวดศีรษะ หรือมีไข้ร่วมด้วย ผิวที่ไหม้แดดระดับนี้จะใช้เวลาฟื้นฟูนานกว่า 1-2 สัปดาห์ และมักทิ้งร่องรอยความเสียหายไว้ทั้งในรูปแบบของรอยดำและรอยด่างที่ไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้เกิดปัญหาหน้าไหม้แดดที่แก้ไขยากในระยะยาว
แสงแดดและอากาศร้อนทำร้ายผิวยังไง
รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากดวงอาทิตย์เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อผิว โดยเฉพาะรังสี UVA และ UVB ที่ทำลายเซลล์ผิวในระดับลึก รังสี UVB ทำให้เกิดการไหม้แดดที่ชั้นหนังกำพร้า ส่วนรังสี UVA แทรกซึมลงไปถึงชั้นหนังแท้ ทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวเสียความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอย และเร่งการเสื่อมของผิว นอกจากนี้ ความร้อนจากอากาศร้อนยังกระตุ้นให้ผิวผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไป ทำให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และปัญหาผิวคล้ำเสียจากแดดที่ยากต่อการแก้ไข
5 วิธีดูแลผิวเสียจากแดดให้กลับมาใส
การดูแลผิวเสียจากแดดต้องทำอย่างต่อเนื่องและเหมาะสมกับระดับความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นผิวคล้ำเสียจากแดด หรือหน้าไหม้แดด ก็สามารถฟื้นฟูให้กลับมาสุขภาพดีได้ด้วยวิธีการต่อไปนี้ ซึ่งช่วยบรรเทาอาการและฟื้นฟูผิวที่เสียหายให้กลับมาแข็งแรงและมีสุขภาพดี
1. การประคบเย็น
การประคบเย็นเป็นวิธีแรกที่ควรทำทันทีเมื่อพบว่าผิวเริ่มมีอาการไหม้แดด โดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเย็น (ไม่ใช่น้ำแข็ง) ประคบบริเวณที่มีอาการนาน 15-20 นาที วันละ 3-4 ครั้ง การประคบเย็นช่วยลดการอักเสบ บรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อน และลดการสร้างเม็ดสีเมลานินที่จะทำให้ผิวคล้ำในภายหลัง นอกจากนี้ ยังช่วยลดอาการบวมและลดการขยายตัวของหลอดเลือดที่ทำให้ผิวแดง ในกรณีหน้าไหม้แดดรุนแรง การประคบเย็นในช่วง 24 ชั่วโมงแรกมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการลดความเสียหายของผิว
2. ใช้ครีมกันแดดทุกวัน
แม้ว่าผิวจะเสียจากแดดไปแล้ว การป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ให้เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 50 และมีการป้องกันรังสี UVA และ UVB อย่างครอบคลุม ทาครีมกันแดดทุกวันแม้อยู่ในอาคาร และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมงเมื่ออยู่กลางแจ้ง นอกจากนี้ ควรเลือกกันแดดที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินอี ที่ช่วยลดความเสียหายจากรังสี UV และป้องกันการเกิดผิวคล้ำเสียจากแดดซ้ำ รวมทั้งช่วยให้ผิวที่เสียหายค่อยๆ ฟื้นตัวได้ดีขึ้น
3. งดการขัด สครับผิว ในช่วงที่ผิวไหม้
เมื่อผิวเกิดอาการไหม้แดดหรือผิวเสียจากแดด ผิวจะอยู่ในภาวะที่บอบบางและระคายเคืองง่าย การขัดหรือสครับผิวในช่วงนี้จะเป็นการทำร้ายผิวซ้ำซ้อน ทำให้อาการแย่ลงและยืดระยะเวลาการฟื้นฟู ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือน้ำหอม ล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิห้องไม่ร้อนเกินไป และซับเบาๆ ไม่ถูแรง ให้เวลาผิวได้ฟื้นฟูตัวเองอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์หลังจากอาการไหม้แดดหายไป จึงค่อยเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน
4. ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว
ภาวะผิวเสียจากแดดทำให้ผิวสูญเสียน้ำอย่างมาก ส่งผลให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น และเร่งการเสื่อมของเซลล์ผิว การดื่มน้ำอย่างเพียงพออย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน ช่วยในการขับสารพิษและซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหาย ควรดื่มน้ำเปล่าสะอาดเป็นหลัก และอาจเสริมด้วยอาหารและผลไม้ที่มีน้ำมาก เช่น แตงโม แตงกวา ส้ม เพื่อเพิ่มวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูผิว โดยเฉพาะในช่วงที่มีอาการหน้าไหม้แดด น้ำจะช่วยลดการอักเสบและเร่งการฟื้นตัวของผิวได้
5. Rejuran ปรับสภาพผิวให้สดใส
Rejuran เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสูงในการฟื้นฟูผิวเสียจากแดดที่เสียหายรุนแรงหรือเรื้อรัง ด้วยส่วนประกอบหลักคือ PDRN (Polydeoxyribonucleotide) ที่สกัดจาก DNA ของปลาแซลมอน มีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายจากรังสี UV และช่วยลดเลือนรอยดำจากแดด การทำ Rejuran โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยฟื้นฟูผิวคล้ำเสียจากแดดและผิวที่หมองคล้ำให้กลับมาสดใส มีออร่า ลดเลือนจุดด่างดำ และเพิ่มความแข็งแรงให้ผิว ทำให้ผิวมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นต่อความเสียหายจากแสงแดดในอนาคต
สรุปบทความ
การดูแลผิวเสียจากแดดไม่ว่าจะเป็นผิวคล้ำเสียจากแดดหรือหน้าไหม้แดด ต้องทำอย่างเป็นระบบทั้งการรักษาและป้องกัน โดยเริ่มจากการประคบเย็นเพื่อลดการอักเสบ ใช้ครีมกันแดดทุกวันเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม หลีกเลี่ยงการขัดสครับผิวในช่วงที่ผิวบอบบาง ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และพิจารณาการทำ Rejuran เพื่อฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก สำหรับผู้ที่สนใจ Rejuran สามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีเทคนิคเฉพาะตัวในด้านการปรับรูปหน้า ด้านการดูแลผิว และการด้านการดูแลรูปร่างของ Wichanya Clinic ได้เลย