ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อผลลัพธ์ที่สวยและอยู่ได้นาน

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ เพราะจะส่งผลต่อความสวยและความคงทนของฟิลเลอร์โดยตรง การปฏิบัติตัวที่ถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน และทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น เรามาทำความเข้าใจวิธีการดูแลตัวเองที่ถูกต้องกัน

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาห้ามทำอะไร

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษในช่วงแรก เพราะบริเวณใต้ตาเป็นผิวบางและบอบบาง มีเส้นเลือดและต่อมน้ำเหลืองมากมาย การปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไม่ถูกต้อง อาจส่งผลให้เกิดการบวม ช้ำ หรือการกระจายตัวของฟิลเลอร์ที่ไม่สม่ำเสมอได้

1. ห้ามกด นวด หรือสัมผัสบริเวณใต้ตาแรง ๆ

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสิ่งสำคัญที่สุดคือการหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ได้รับการรักษาโดยเด็ดขาด เพราะฟิลเลอร์ต้องการเวลาในการเซตตัวและกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ การกดหรือนวดอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการ ส่งผลให้เกิดความไม่สมมาตรหรือการบวมที่ผิดปกติ นอกจากนี้ การสัมผัสแรง ๆ ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เพราะบริเวณที่ฉีดยังไม่หายสนิท ควรปล่อยให้ผิวหนังและฟิลเลอร์ได้พักตัวอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์

2. ห้ามแต่งหน้าในวันแรก

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรงดแต่งหน้าในวันแรก เพราะเครื่องสำอางอาจมีสารที่ระคายเคืองต่อผิวที่เพิ่งได้รับการรักษา และอาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ แปรงแต่งหน้าอาจมีแบคทีเรียสะสมอยู่ แม้จะทำความสะอาดแล้วก็ตาม การเกลี่ยครีมหรือการใช้พัฟก็อาจกดทับบริเวณที่ฉีด ทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้ ควรงดการแต่งหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังการรักษา และเมื่อกลับมาแต่งหน้าควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและสะอาด

3. ห้ามโดนความร้อนสูง

การสัมผัสความร้อนสูงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นสิ่งต้องห้ามโดยเด็ดขาด เพราะความร้อนจะทำให้เกิดการขยายตัวของเส้นเลือด เพิ่มการไหลเวียนเลือด และอาจทำให้เกิดการบวมมากขึ้น โดยควรหลีกเลี่ยงการอบซาวน่า การอาบน้ำร้อน หรือแม้แต่การทำอาหารที่มีไอร้อน นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการตากแดดโดยตรง เพราะรังสี UV นอกจากจะให้ความร้อนแล้ว ยังอาจทำให้เกิดการอักเสบและทำลายฟิลเลอร์ได้เร็วขึ้น

4. ห้ามดื่มแอลกอฮอล์

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเราควรงดดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการบวมและช้ำได้ง่าย นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ยังทำให้ร่างกายขาดน้ำ ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของฟิลเลอร์ที่มีส่วนประกอบของกรดไฮยาลูโรนิก ที่ต้องการน้ำในการทำงาน ควรงดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังการรักษา เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่

5. ห้ามออกกำลังกายหนัก

การออกกำลังกายหนักหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะการออกกำลังกายทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น เลือดไหลเวียนมากขึ้น และอาจทำให้เกิดการบวมหรือช้ำได้ง่าย โดยเฉพาะท่าที่ต้องก้มหัวหรือมีแรงกระแทก นอกจากนี้ เหงื่อที่ออกมายังอาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ ควรงดการออกกำลังกายที่หนักอย่างน้อย 1 สัปดาห์ และเมื่อกลับมาออกกำลังกาย ควรเริ่มจากเบา ๆ ก่อน

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรทำอะไร

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรทำอะไร

การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์สวยและอยู่ได้นาน นอกจากการหลีกเลี่ยงสิ่งที่ไม่ควรทำแล้ว การปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้จะช่วยให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด 

1. ประคบเย็น

การประคบเย็นเป็นวิธีที่มีดีมาก ๆ ในการลดอาการบวมและช้ำหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรใช้ถุงน้ำแข็งห่อด้วยผ้าสะอาด หรือเจลเย็นที่ออกแบบมาสำหรับประคบโดยเฉพาะ ประคบเบา ๆ เป็นเวลา 10-15 นาที ทุก 1-2 ชั่วโมงในวันแรก และ 3-4 ครั้งต่อวันในวันถัดไป การประคบเย็นนอกจากจะช่วยลดอาการบวมแล้ว ยังช่วยบรรเทาอาการไม่สบายและลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ ทำให้การฟื้นตัวเร็วขึ้น

2. ดื่มน้ำมาก ๆ

การดื่มน้ำในปริมาณที่มากพอหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะฟิลเลอร์ที่มีส่วนประกอบของกรดไฮยาลูโรนิกต้องการน้ำในการทำงานและการกระจายตัวอย่างสมบูรณ์ การดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดการอักเสบ และช่วยให้ร่างกายขับสารพิษออกได้ดีขึ้น นอกจากนี้ การดื่มน้ำยังช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี ส่งผลให้การฟื้นตัวเร็วขึ้น

3. พักผ่อนให้เพียงพอ

การพักผ่อนที่เพียงพอหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นตัว ควรนอนหงายและยกหมอนให้สูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อลดการบวมและช่วยให้ของเหลวไม่คั่งบริเวณใต้ตา การนอนหลับอย่างเพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน จะช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้ดี ลดการอักเสบ และช่วยให้ผลลัพธ์สวยงามยิ่งขึ้น หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือตะแคงในช่วงแรก

4. ทาครีมกันแดดทุกวัน

การป้องกันแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญมากหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 และมี PA+++ ขึ้นไปทุกวัน แม้จะอยู่ในร่ม เพราะรังสี UV สามารถทำลายฟิลเลอร์และทำให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น นอกจากนี้ ควรสวมแว่นกันแดดและหมวกเมื่อต้องออกแดด เพื่อป้องกันแสงแดดโดยตรง การป้องกันแสงแดดอย่างเคร่งครัดจะช่วยยืดอายุการใช้งานของฟิลเลอร์

5. ติดตามผลกับแพทย์

การติดตามผลการรักษากับแพทย์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แพทย์จะนัดติดตามผลหลังการรักษาประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อประเมินการกระจายตัวของฟิลเลอร์ ตรวจสอบความสมมาตร และดูว่ามีภาวะแทรกซ้อนหรือไม่ หากพบความผิดปกติใด ๆ แพทย์สามารถแก้ไขได้ทันท่วงที นอกจากนี้ แพทย์อาจแนะนำการดูแลเพิ่มเติมหรือการรักษาเสริมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

สรุปบทความ

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ ทั้งการหลีกเลี่ยงสิ่งที่ไม่ควรทำ เช่น การนวด การแต่งหน้า การสัมผัสความร้อน การดื่มแอลกอฮอล์ และการออกกำลังกายหนัก พร้อมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลตัวเอง ทั้งการประคบเย็น การดื่มน้ำมาก ๆ การพักผ่อนให้เพียงพอ การทาครีมกันแดด และการติดตามผลกับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ สำหรับผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ พร้อมปรึกษาการดูแลตัวเองกับแพทย์ สามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีเทคนิคเฉพาะตัวในด้านการปรับรูปหน้า ด้านการดูแลผิว และการด้านการดูแลรูปร่างของ Wichanya Clinic ได้เลย